อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแก่งคอย อำเภอหนองแค อำเภอวิหารแดง และอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ป่าเขาสามหลั่นอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มาก มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ สภาพธรรมชาติป่าเขา น้ำตกที่สวยงาม โดยเฉพาะน้ำตกเขาสามหลั่น ซึ่งนักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดี ทางคมนาคมสะดวกสบาย สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปกลับได้ในวันเดียว อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น มีเนื้อที่ประมาณ 27,856.25 ไร่ หรือ 44.57 ตารางกิโลเมตร
แต่เดิมอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ได้รับการจัดตั้งเป็นวนอุทยานน้ำตกสามหลั่น อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพระฉายทั้งหมด มีเนื้อที่ 24 ตารางกิโลเมตร ในความรับผิดชอบของป่าไม้เขตสระบุรี ต่อมาเมื่อกรมป่าไม้จัดตั้งกองอุทยานแห่งชาติขึ้นใหม่ ในปี พ.ศ. 2517 จึงได้โอนวนอุทยานน้ำตกสามหลั่นมาขึ้นกับกองอุทยานแห่งชาติ ซึ่งในอดีตป่าแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้ใช้พื้นที่นี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ ทำหลุมหลบภัย มีการตัดไม้ ทำฟืน ทำถ่านหุงหาอาหาร และทำถนน ทำให้ป่าธรรมชาติบางส่วนถูกทำลายลง ในปี พ.ศ. 2503 จึงได้เริ่มทำการปลูกป่าทดแทนให้สภาพป่าฟื้นตัวขึ้นมา และเมื่อได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติทำให้สภาพป่าฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น
ต่อมา ในปี 2519 กรมป่าไม้ได้ให้กองอุทยานแห่งชาติ พิจารณาป่าพระฉาย กำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติจึงให้วนอุทยานน้ำตกสามหลั่นไปทำการสำรวจ ซึ่งวนอุทยานน้ำตกสามหลั่นได้มีหนังสือรายงานผลการสำรวจว่า บริเวณป่าพระฉายเป็นภูเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร สภาพป่าสมบูรณ์ดี มีน้ำตกที่สวยงาม และมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด เหมาะที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2519 เห็นสมควรให้กำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าพระฉายและน้ำตกสามหลั่น ในท้องที่ตำบลหนองนาก ตำบลห้วยทราย ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมืองสระบุรี ตำบลบ้านลำ ตำบลคลองเรือ อำเภอวิหารแดง และตำบลห้วยแห้ง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 ตอนที่ 85 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2524 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 27 ของประเทศ
ต่อมาในปี 2543 อธิบดีกรมป่าไม้ ได้เดินทางตรวจเยี่ยมราชการและได้แนะนำว่า ควรเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นเป็น อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย โดยกรมป่าไม้พิจารณาแล้วเพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และสภาพของพื้นที่ จึงเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น เป็นอุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พิจารณาชื่ออุทยานแห่งชาติให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับจุดเด่น และศักยภาพที่สำคัญของพื้นที่ที่จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ จึงเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย เป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อน เป็นเทือกเขาสูงที่วางตัวตามแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ มีที่ราบแคบๆ ระหว่างหุบเขาอยู่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติ ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ เขาครก มีความสูงประมาณ 329 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นตัวเมืองสระบุรี และอำเภอใกล้เคียงได้อย่างชัดเจน ป่าแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกหลายแห่ง เป็นต้นน้ำลำธารที่ไหลไปหล่อเลี้ยงไร่นาของราษฎรที่อยู่ใกล้เคียง สภาพของดินเป็นดินเหนียวและดินร่วนปนทราย หินชั้นล่างเป็นพวกหินดินดาน
ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศในเขตอุทยานแห่งชาติสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูร้อน จะร้อนอบอ้าวระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ฤดูฝนจะมีฝนตกชุก ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน และฤดูหนาวอากาศเย็นสบาย ระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม อุณหภูมิเฉลี่ย 28oC มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,200 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนได้ตลอดปี
พืชพรรณและสัตว์ป่า
สภาพป่าประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ แดง ประดู่ พลวง เต็ง รัง ตะเคียนทอง มะค่า ตะแบก เป็นต้น และพันธุ์ไม้อื่นๆ ที่ทำการสำรวจไว้กว่า 800 ชนิด ส่วนไม้พื้นล่างเป็นพวกไม้ไผ่ชนิดต่างๆ ตลอดจนหวาย และกล้วยไม้ เป็นต้น
สำหรับสัตว์ที่มีอาศัยอยู่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น ไก่ฟ้า ไก่ป่า เก้ง กระจง ลิง หมูป่า กระรอก กระแต และนกชนิดต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ซึ่งคาดว่าจะสูญพันธุ์ ไปแล้ว
[mappress mapid=”1006″]