หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 250 ไร่ ห่างจากอำเภอเชียงแสน 10 กิโลเมตร หอฝิ่นฯ ล้อมรอบด้วยสวนอันสวยงามเป็นศูนย์นิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของฝิ่น คุณประโยชน์ และมหันตภัยของยาเสพติดต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการใช้มัลติมีเดียทันสมัยในการนำเสนอเนื้อหา เป็นการเรียนรู้ผ่านความบันเทิงในเวลาเดียวกัน
หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ เป็นเสมือนประตูเปิดสู่โลกอันลึกลับของพืชชนิดนี้ จากความมืดมนน่าหวาดกลัว สู่ความแจ่มจรัสและรู้แจ้ง พื้นที่ 5,600 ตารางเมตรแสดงลำดับเรื่องราวของฝิ่น โดยเริ่มจาธรรมชาติวิทยาของฝิ่น การสืบประวัติการใช้ฝิ่นในยุคโบราณกลับไป 5,000 ปี ประวัติการแพร่กระจายของฝิ่นจากการค้าสมัยจักรวรรดินิยม เหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์ที่สร้างความอดสูแก่ผู้ชนะและผู้แพ้สงครามฝิ่นอันนำไปสู่การล่มสลายของราชวงค์แมนจู ความชาญฉลาดของประเทศสยามในการเผชิญกับมหาอำนาจตะวันตกและการควบคุมปัญหาฝิ่น
นิทรรศการภายในของหอฝิ่นประกอบด้วย
อุโมงค์มุข (TUNNEL) นิทรรศการเริ่มตั้งแต่อุโมงค์ที่มืดสนิท ดูลึกลับที่มีความยาว 137 เมตร ซึ่งเจาะทะลุภูเขาทางด้านตึกรับรองไปถึงตัวอาคารใหญ่อีกฟากหนึ่ง ที่กว้าง สว่าง ลม โปร่ง และเป็นทุ่งฝิ่นจำลอง
ห้องโถง (LOBBY) ผู้คนจะได้เห็นทุ่งฝิ่นจำลอง และศึกษาเรื่องราว และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพันธุ์ต่างๆของดอกป๊อปปี้ทั้งที่เป็นพันธุ์สวยงามและเป็นพันธุ์ที่ใช้กรีดเอายางมาผลิตเป็นยา การเจริญเติบโตในระยะต่างๆของดอกป๊อปปี้ รวมทั้งการเปาะแห้งของดอกป๊อปปี้ที่ใช้ประโยชน์ในการตกแต่งดอกไม้แห้งประดับ
ห้องประชุม (AUDITORIUM) ห้องโสตทัศนศึกษาในห้องนี้มีการจัดฉาย VTR เล่าถึงที่มาจุดประสงค์และเรื่องราวที่บรรจุในการจัดหอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ
ปัญจสหัสวรรษแรก (THE FIRST 5,000 YEARS) ผู้ชมจะเดินทางเข้าสู่การแกะรอยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของพืชพิเศษประเภทนี้ การแกะรอยประวัติศาสตร์ของฝิ่นเริ่มต้นจากการกำเนิดของฝิ่น บริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีหลักฐานการค้นพบครั้งแรกที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ตลอดจนหลักฐานที่มีการเขียนเป็นรายลักษณ์อักษรชิ้นแรกในตำราทางการแพทย์ SUMERIAN และการใช้เชิงการแพทย์ และการศาสนาในกรีกโบราณ โมและ อียิปต์ ได้มีการใช้ฝิ่นซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิผลที่ต่ำมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน
มีดสองคม (LIGHT AND DARK HALLWAY) ผนังสองด้านของทางเดินเชื่อมต่อนี้จะถูกออกแบบให้สะท้อนถึงด้านดีและด้านร้ายที่ได้จากการใช้ ”ฝิ่น”
– ด้านที่ดี จะเป็นด้านที่สว่างเห็นภาพของการใช้ยาที่ได้จากการสกัดจากฝิ่น เพื่อประโยชน์จากการรักษาและบรรเทาอาการเจ็บปวด ผลผลิตที่ได้จากดอกป๊อปปี้ เช่น สินค้า เค้ก ขนมปัง ดอกไม่ประดับ
– ด้านร้าย เป็นด้านที่มืดจะเห็นอาการที่ทุกข์ทรมานจากการเสพติด ภาพการใช้เข็มฉีดยา และภาพการเสื่อมโทรมทางกายภาพของผู้ติดยา
ประจิมสู่บูรพา (FROM WES TO EAST) ต่อจากนั้นผู้ชมจะก้าวเข้าสู่ยุคของการค้าระหว่างจักรวรรดิยุโรปกับเอเชีย เพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่าฝิ่นเป็นสินค้าในเชิงพาณิชย์อย่างไรและฝิ่นกลายเป็นสารเสพติดที่แพร่หลายในวงกว้างอย่างไร โดยจำลองฉากท่าเรือพาณิชย์อังกฤษผู้ชมจะเดินทางผ่านห่อใบชา ผ้าไหม เครื่องลายคราม และเครื่องเทศ อันเป็นสินค้าของตะวันออกและวัฒนธรรมการดื่มชาของชาวอังกฤษ และเป็นสาเหตุของการขาดดุลการค้าอย่างมหาศาลเกือบทำให้ประเทศนี้เกือบล่มสลาย ต่อจากนั้นจึงเดินทางเข้าสู่เรือสินค้าของยุโรปที่ออกเดินทางจากอังกฤษมาอินเดียพร้อมทั้งชมโรงงานฝิ่นในอินเดีย เรือบรรทุกสินค้าจะหยุดพักที่เมืองสิงคโปร์เพื่อเติมเสบียง และขนถ่ายสินค้าบางส่วนลงเรือขนาดเล็ก สู่ท่าเรือท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เมืองสงขลา และจันทบุรี เมืองสิงคโปร์จึงกลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างอินเดียและจีน ก่อนที่จะรวมการเดินทางราวติดปีกของฝิ่นมาสู่ประเทศจีนที่ท่าเรืออันเป็นหัวใจของจีน กวางตุ้ง
ศึกยาฝิ่น (OPIUM WARS) ร่องรอยประวัติศาสตร์นี้จะนำนักท่องเที่ยวสู่ความขัดแย้งที่รู้จักกันในนาม “ สงครามฝิ่น “ เมื่อชาวอังกฤษบังคับให้จีนเปิดประเทศเข้าสู่การค้าเสรีและภายใน ค.ศ. 1900 คนจีนกว่า 13 ล้านคน ติดฝิ่นเศรษฐกิจของจีนถูกทำลายลงอย่างย่อยยับจากการที่จีนต้องนำเข้าฝิ่นเป็นจำนวนมากมายมหาศาลและราชวงค์แมนจู(ราชวงค์ชิง) ก็ตกอยู่ในภาวะล่มสลาย ภายในห้องนี้จะเล่าถึงเหตุการณ์ สำคัญรวมทั้งสงครามที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของจีนโดยมีการจัดแสดงหุ่นจำลองของสามบุคลสำคัญของจีนและสามบุคลสำคัญของอังกฤษทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับสงครามฝิ่น ห้องถัดมาจะเป็นการจัดแสดงเหตุการณ์สำคัญสามเหตุการณ์ ได้แก่ การทำลายฝิ่นที่หูเหมินโดยข้าหลวงหลินเจ๋อสวี การเผาทำลายหยวนหมิง – หยวน ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนอายุกว่า 150 ปี การถูกลิดรอนสิทธิและผลกระทบด้านความเป็นอยู่ของชาวจีนหลังสงคราม
ฝิ่นในสยาม ( OPIUM IN SIAM ) เมื่อลองเข้ามาในห้องนี้จะมีเจดีย์รัตนโกสินทร์ตั้งอยู่และจะผ่านเข้าประตูเมือง มีการจำลองโรงน้ำชาจีนในเยาวราชโดยมีหุ่นนอนสูบฝิ่นสองคน ความเป็นมาของฝิ่นในสยาม แม่ฝิ่นจะไม่ได้มีต้นกำเนิดในประเทศไทยแต่ก็มีหลักฐานยืนยันว่าคนไทยรู้จักฝิ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วในสมัยรัชการที่ 1,2 และ3 พระราชบัญญัติห้ามค้าฝิ่นและสูบฝิ่นยังคงถูกประกาศใช้อย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ฝิ่นในสยามเริ่มเปลี่ยนแปลงหลังจากอังกฤษรบชนะจีนในสงครามฝิ่น อีกส่วนต่อมาจะจัดแสดงของหายาก เช่น ลูกแป้ง กลักยาฝิ่น หมอน เป็นต้น รวมทั้งพื้นที่จำลองในการเคี่ยวฝิ่น,พระพุทธรูปที่ได้จากการหลอมกลักฝิ่น
ยามหัศจรรย์ (MEDICAL MARVELS) ต่อจากนั้นนักท่องเที่ยวจะได้รู้ถึง พัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ ของตะวันตกที่นำไปสู่การแยกตัวของมอร์ฟีน พัฒนาการของเฮโรอีน และการฉีดเฮโรอีนเข้าใต้ผิวหนังชาวตะวันตกส่วนมาจะติดยาแก้ปวดประเภทนี้และยาอื่นๆรวมถึงฝิ่นและยาเสพติดอื่นๆ
ข้อห้ามทางกฎหมาย/อาชญากรรม/การขัดแย้ง ( PROHIBITION/CRIME/CONFLICT) การตามรอยประวัติศาสตร์จบลงด้วยการที่ทั่วโลกต้องหันมาป้องกันฝิ่นและยาเสพติดในช่วงทศวรรษที่ 20 โดยยาเสพติดที่ผิดกฎหมายอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การอาชญากรรมอันเป็นควานพยามของชาวโลกในการร่วมใจพัฒนาเพื่อต่อสู้กับการลักลอบค้ายาเสพติดและการใช้ยาในทางที่ผิด
แหล่งซุกซ่อน (HIDE-OUT HALLWAY ) ต้องการให้ผู้ชมทราบถึงการรู้เท่าทันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจับยาเสพติดว่า ไม่ว่าจะซ่อนไว้ที่ไหนก็ตามก็สามารถจับได้ เช่น การซ่อนไว้ที่รองเท้า ในกระหล่ำปลี เป็นต้น
ผลร้ายของยาเสพติด (EFFECTS OF DRUGS) ผู้ชมจะได้เห็นว่าการติดยาเสพติดเป็นสิ่งที่ทุกข์ทรมานจะเกิดผลร้ายที่กระทบกันอย่างต่อเนื่องทังทางด้านเศรษฐกิจด้านสังคมและตัวผู้เสพเอง ทางด้านร่างกายและจิตใจ ผู้ชมจะได้ทราบถึงยาเสพติดประเภทต่างๆ เช่น ยาเสพติดในกลุ่มฝิ่น,ยากดประสาท,ยากระตุ้นประสาท,ยาหลอนประสาท,กลุ่มสารระเหย ฯลฯ ใครที่คิดว่ายาเสพติดไม่เกี่ยวกับเขาเพราะเขาหรือใครในครอบครัวไม่ติดยา คนนั้นคิดผิดยาเสพติดมีผลกระทบต่อชีวิตทุกคน
การศึกษา (CASE STUDIES) เป็นกรณีศึกษาจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวที่ติดยาเสพติดการจัดแสดงเรื่องราวของครอบครัวที่ตกเป็นทาสยาเสพติดว่าต้องประสบชะตากรรมอย่างไรบ้าง บางครอบครัวก็สามารถเอาชนะได้และบางครอบครัวก็ต้องประสบทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
หลอกตัวเอง/หลอกคนอื่น (GALLERY OF EXCUSES/GALLERY OF VICTIMS) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการแก้ตัว แก้ต่าง กล่าวโทษกันไปมา ไม่มีประโยชน์ ไม่มีข้อสรุป สุดท้ายคือความตาย และเรื่องราวที่เกี่ยวกับเอดส์และผู้ตกเป็นเหยื่อ
ห้องคิดคำนึง (HALL OF REFLECTION) ผู้ชมได้มีโอกาสที่ได้อยู่กับตัวเองและตั้งคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้รับจากการชมนิทรรศการทั้งหมด ซึ่งเราหวังว่านักท่องเที่ยวแต่ละท่านที่ได้เข้ามาสัมผัส หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ จะก้าวออกจากนิทรรศการแห่งนี้ไปด้วยความรู้สึกที่ปรารถนาจะมีส่วนร่วมในอันที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดต่อไป
วันและเวลาดำเนินการ ** วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 8.30 – 16.00 น. ( เวลา 16.00 น. เป็นเวลาขายบัตรรอบสุดท้าย ) ** จำนวนผู้เข้าชมมากสุดไม่ควรเกิน 50 คน/ รอบ ระยะเวลาสำหรับการชมนิทรรศการโดยเฉลี่ย 1-2 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม- คนไทย 200 บาท / คน – คนต่างชาติ 300 บาท / คน – ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 50 บาท / คน – เด็กอายุ 12 – 18 ปี 50 บาท / คน – เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
[mappress mapid=”670″]